
ข่าวด่วน ศธ. จ่อเลื่อนแบบเปิดเทอม แบบออนไซต์ ต้นเดือนธ.ค.
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ระบาดหนักมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ส่งผลให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นักเรียนในหลายพื้นที่เสี่ยงจะต้องปรับรูปแบบการเรียนแบบกะทันหัน จากเดิมที่เรียนแบบออนไซต์ เปลี่ยนเป็นแบบออนไลน์ทั้งหมด และล่าสุดมีข่าวมาว่าในเร็ววันนี้นักเรียน – นักศึกษา จะได้กลับไปเรียนในรูปแบบเดิมแล้ว
เกิดคลัสเตอร์อีกครั้ง ศธ.จ่อเลื่อนเปิดเทอมต้นเดือนหน้า
ก่อนหน้านี้มีข่าวมาว่านักเรียนกว่า 12,000 โรงเรียน กำลังจะได้กลับไปเรียนกันในรูปแบบเดิมนั่นคือการเรียนแบบออนไซต์ ในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 แต่แล้วหลังจากที่มีการประกาศเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวในไทยได้อย่างอิสระเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่เกิดคลัสเตอร์ใหม่อีกครั้ง อีกทั้งบางพื้นที่ยังเกิดความแตกตื่นเรื่องชุดตรวจ ATK นักเรียน มีผลปิดเพี้ยน จนมีเหตุต้องปิดเรียนไป
และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ตรีนุช เทียนทอง รมช.ศึกษาธิการ ได้มีการเปิดเผยว่าสถานศึกษาที่เหลือจำนวนกว่า 3.5 หมื่นแห่ง ที่ผ่านการประเมินตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังเตรียมตัวเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2564 ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564(ตามกำหนดเดิม) มีความชัดเจนว่า จะต้องเลื่อนเปิดเทอม ออกไปก่อน

ศธ.ยืนยัน เปิดเทอมโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้นเดือนหน้า
ซึ่งประเด็นนี้นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มีการเปิดเผยถึงเรื่องการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2564 แบบออนไซต์ หรือการเปิดเรียนแบบเต็มรูปแบบ คือนักเรียนและคุณครูจัดการเรียนการสอนได้ในสถานศึกษาตามปกติ ว่า สถานศึกษาจะมีการทยอยเปิดภาคเรียนแบบออนไซต์จริง โดยจะเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป คือ เริ่มเปิดเรียนแบบออนไซต์ในวันที่ 1 ธันวาคม, วันที่ 8 ธันวาคม และวันที่ 15 ธันวาคม นี้
นอกจากนี้นางสาวตรีนุช ยังได้มีการกล่าวถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาว่า สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้คนกลุ่มนี้ได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 90 แล้ว “และครูได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครบร้อยละ 60 ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจากนี้ไป จะพยายามเร่งการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มากที่สุดในเดือนพฤศจิกายนปี2564 นี้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับนักเรียนเข็มที่ 1 นั้น ได้ครอบคุลมกลุ่มนักเรียนแล้วกว่าร้อยละ 84 แต่เหนือสิ่งอื่นได้ทั้งตัวสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมไปถึงพ่อ แม่ ผู้ปกครอง นักเรียน ฯลฯ ยยังคงต้องรักษามาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์และการติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเปิดภาคเรียนในวันที่ที่กำหนด

มาตรการ 6-6-7 คืออะไร? ทำไมมีความสำคัญ
โดยแนวทางในการปฏิบัติตัวตามมาตรการดังกล่าว ในช่วงก่อน – หลังเปิดเทอมของนักเรียน จะต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการ 6-6-7 คือ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มงวด อันได้แก่
6 มาตรการหลัก (DMHC-RC)
- เว้นระยะห่างทางสังคม (Distancing)
- สวมหน้ากากอนามัย (Mask Wearing)
- ล้างมือให้สะอาด (Hand Washing)
- คัดกรองวัดไข้ (Testing)
- ลดการแออัด (Reducing)
- ทำความสะอาด (Cleaning)
6 มาตรการเสริม (SSET-CQ)
- ดูแลตนเอง (Self-care)
- ใช้ช้อนกลางส่วนตัว (Spoon)
- กินอาหารปรุงสุกใหม่ (Eating)
- ลงทะเบียนเข้า – ออก (Track)
- สำรวจตรวจสอบ (Check)
- กักกันตัวเอง (Quarantine)
7 มาตรการเข้มงวด (สำหรับสถานศึกษา)
- ประเมิน TSC+ และรายงานผลผ่าน COVID อย่างต่อเนื่อง
- Small Bubble ทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย ไม่ทำกิจกรรมข้ามกลุ่ม
- อาหาร ถูกต้องตามหลักสุขภิบาลอาหารและโภชนาการ
- อนามัยสิ่งแวดล้อม ตามเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ และขยะ
- School Isolation มีแผนเผชิญเหตุ และซักซ้อมอย่างเคร่งครัด
- Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน
- School Pass สำหรับทุกคนในสถานศึกษา
ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการ 6-6-7 ที่นักเรียน คุณครู และบุคลากรภายในโรงเรียน จำเป็นต้องปฏิบัติตามหากสถานศึกษามีการเปิดเรียนแบบออนไซต์จริง ๆ ในส่วนของการเลื่อนแบบเปิดเทอม แบบออนไซต์ ไปเป็นต้นเดือนธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ดูท่าแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะเพราะหากเปิดเรียนในช่วงนี้ก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจากการเสี่ยงดวงสมัคร gclub หรือเล่นเกมเสี่ยงดวงต่าง ๆ ที่เราก็ไม่รู้เลยว่ามันจะออกผลลัพธ์เป็นอย่างไร รอให้สถานการณ์ทรงตัวและมีทางออกที่ดีก่อนการเปิดเทอมจะดีที่สุดค่ะ
Comments (0)