
เป็นเด็กใครว่าไม่เครียด ปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่ต้องรับมือให้ทัน
เป็นเด็กก็เครียดได้ พ่อแม่ต้องรับมืออย่างไรเมื่อเจอกับปัญหา
พ่อแม่รู้หรือไม่? ว่าไม่ใช่แค่วัยผู้ใหญ่เท่านั้นที่ต้องแบกรับความเครียด เพราะแม้แต่เด็กเองก็มีความเครียดภายในใจไม่น้อยไปกว่าผู้ใหญ่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นความเครียดเหล่านี้อาจไปกระทบส่งผลทางด้านลบต่อสุขภาพในระยะยาวกับเด็ก
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเกิดความเครียดได้นั้นมีอยู่หลายอย่าง เช่น ความเครียดจากโควิด, การเรียน, ความกดดันจากพ่อแม่ ฯลฯ ซึ่งแท้จริงแล้วความเครียดในเด็กจะถูกแบ่งออกได้ 2 รับได้ ได้แก่
- ระดับที่ 1 ภาวะเครียดฉับพลัน (Acute Stress) ที่จะเกิดได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
- ระดับที่ 2 ภาวะเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress) เป็นความรู้สึกที่เกิดจากการทำให้เด็กทนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งความเครียดลักษณะนี้จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเคมีในสมอง (Brain Chemistry) ทั้งยังทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเด็กต่ำลงด้วย
พ่อแม่รู้ได้อย่างไร ว่าเด็กกำลังเกิดความเครียด?
เด็กก็เหมือนผู้ใหญ่ที่เมื่อเกิดความเครียดก็มักจะเก็บเอาไว้ ไม่บอกใคร และคิดว่าสามารถแก้ไขได้เอง แต่เด็กบางคนก็อยากจะบอกความต้องการของตัวเองออกไป แต่ติดตรงที่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร ไม่รู้จะบอกอย่างไร หรือไม่กล้าที่จะปรึกษาพ่อแม่ตรง ๆ เพราะฉะนั้นคนเป็นพ่อเป็นแม่ หรือคนในครอบครัว จึงต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กว่ามีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ หรือไม่ ดังนี้
- เด็กจะร้องไห้และกรีดร้องบ่อยครั้ง แม้ว่าจะเกิดปัญหาเล็กหรือใหญ่
- มีพฤติกรรมก้าวร้าว ดื้อดึง และเกเร
- ขาดความมั่นใจในตัวเอง มีความกังวล และเกิดความกลัวได้ง่าย
- ปลีกตัวออกจากเพื่อน หรือครอบครัว เล่นน้อยลง
- หงุดหงิดง่าย ไม่ได้ดั่งใจก็จะขี้แย
- ไม่มีสมาธิ มีปัญหาเรื่องความจำ บ่นปวดหัวอยู่บ่อย ๆ
- น้ำหนักลดลง ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ และเบื่ออาหาร
- นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ชอบฝันร้าย
- ปวดท้องบ่อย มีปัญหาเรื่องลำไส้ การย่อยอาหาร
- พูดน้อยลง หรือเกิดอาการพูดติดอ่าง

ทำยังไงให้เด็กหายเครียด?
สำหรับวิธีการแรก ๆ ที่เหมาะสำหรับการคลายความเครียดและคลายความกังวลให้เด็ก คือการที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แล้วทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น รับประทานอาหาร, ออกกำลังกาย, ดูหนัง, ปลูกต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้เด็กได้รับรู้ถึงความรักแล้ว ยังช่วยให้คนในครอบครัวได้สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้แก่กันอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีลดความเครียดของเด็กอีก ดังนี้
รับฟังเด็กเมื่อเด็กมีปัญหา
- เมื่อคนในบ้านเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเด็ก ก็ควรที่จะเข้าไปถามไถ่ว่าเด็กรู้สึกยังไง กำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งการพูดคุยกับลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ และคอยรับฟังมีเด็กมีปัญหา แน่นอนว่าต่อไปในอนาคตเด็กก็กล้าที่จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับคุณฟัง เพื่อช่วยกันหาทางออกได้
อย่าดุด่า หรือกดดันเด็กมากเกินไป
- บางทีจุดเริ่มต้นของความเครียดทั้งหมด อาจเกิดขึ้นมาจากแรงกดดันในบ้าน ที่ต้องตีกรอบเกินความจำเป็นให้กับเด็ก อะไรนิดอะไรหน่อยก็ดุด่าเด็กเสมอ จนเด็กสูญเสียความเป็นตัวเองและเกิดความหวาดกลัว บางรายอาจขึ้นไปถึงขั้นว่าพ่อแม่ไม่รัก เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ
สอนให้ลูกรู้จักควบคุมตัวเอง
- บางครั้งการที่เด็กเกิดความเครียดอาจเป็นเพราะยังไม่รู้จักการควบคุมตัวเอง เห็นอะไรขวางหูขวางตาหรือไม่ได้ดั่งใจก็สะสมเก็บมาเป็นความเครียด ดังนั้นพ่อแม่จะต้องสอนให้ลูกควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งนั่นนอกจากจะทำให้เด็กไม่เกิดความเครียดแล้ว ยังเป็นผลดีต่อการเข้าสังคมในอนาคตอีกด้วย
พ่อแม่และผู้ปกครองถือว่าเป็นบุคคลที่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุด ดังนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ หากพวกเขาเกิดความเครียด มีปัญหา หรือความไม่สบายใจใด ๆ แล้วนำมาบอกเล่ากับพ่อแม่ แล้วพ่อแม่สามารถที่จะยื่นมือช่วยเหลือเขาได้เสมอ แม้ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่แต่มีคนที่พร้อมจะรับฟัง ไม่ทำให้เด็กรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ก็จะช่วยลดปัญหาในอนาคต การพนัน เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ยาเสพติด หรืออื่น ๆ ที่เด็กคิดว่าเป็นทางออกที่ดีแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ได้ ยังไงก็ช่วยเป็นหูเป็นตาและคอยรับมือให้ทันเวลาด้วยนะคะ
Comments (0)